ในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในการทำงานและชีวิตประจำวัน การใช้เครื่องมือ AI ที่ดีสามารถช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 AI ที่ควรลองในปี 2025 ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์งานและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น!

1. HyperWrite AI - ผู้ช่วยเขียนอัจฉริยะ
HyperWrite AI ใช้โมเดล GPT จาก OpenAI (เช่น GPT-3.5 และ GPT-4) ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น การจำลองสไตล์การเขียนของคุณ (เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์) และฟีเจอร์ TypeAhead ที่ช่วยทำนายคำและวลีขณะพิมพ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนได้มากขึ้น
ข้อดี:
สามารถตั้งค่าบริบทของเอกสารให้ AI เข้าใจได้ง่าย
มีฟีเจอร์ AutoWrite ช่วยสร้างเนื้อหาหรือบทความตามที่ต้องการ
มีตัวเสริมที่ช่วยเขียนให้เหมาะสมกับงานต่างๆ
ข้อเสีย:
อินเทอร์เฟซผู้ใช้ไม่ค่อยสะดวกใช้งาน
การตอบสนองช้าเมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องมือช่วยเขียนบทความ บล็อก หรือสื่อสารกับลูกค้า
2. Pictory AI - สร้างวิดีโอจากข้อความ
หากคุณต้องการเปลี่ยนข้อความหรือบทความให้เป็นวิดีโอที่น่าสนใจ Pictory AI คือเครื่องมือที่ช่วยทำให้ข้อความของคุณมีชีวิตชีวาในรูปแบบวิดีโอ แค่คุณใส่ข้อความหรือ URL และ Pictory AI จะสร้างวิดีโอให้ทันที พร้อมการปรับแต่งง่ายๆ
ข้อดี:
เปลี่ยนข้อความให้เป็นวิดีโอได้ทันที
เหมาะสำหรับการทำเนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย
สามารถปรับแต่งและเพิ่มเพลงหรือคำบรรยายได้
ข้อเสีย:
ความหลากหลายของเทมเพลตอาจยังไม่เพียงพอ
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสร้างวิดีโอจากบทความหรือโพสต์ในบล็อก
3. Taskade AI - เครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Taskade AI เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยจัดการงานและโครงการของคุณได้อย่างมีระเบียบ ด้วยฟีเจอร์ที่ใช้ AI ช่วยจัดลำดับความสำคัญของงาน ตั้งแต่การเขียนบันทึก งานที่ต้องทำ ไปจนถึงการวางแผนโครงการต่างๆ
ข้อดี:
เครื่องมือช่วยจัดการงานที่มีประสิทธิภาพสูง
รองรับการทำงานร่วมกันในทีม
ใช้งานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์
ข้อเสีย:
อินเทอร์เฟซอาจทำให้ผู้ใช้ใหม่สับสน
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องมือจัดการงานและโปรเจกต์ รวมถึงทีมงานที่ต้องทำงานร่วมกัน
4. Tome AI – เครื่องมือสร้างพรีเซนเทชันที่น่าทึ่ง
Tome AI คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสร้างพรีเซนเทชันแบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้ AI ในการสร้างสไลด์และช่วยสรุปเนื้อหาที่สำคัญ ฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลาในการสร้างพรีเซนเทชันนี้ทำให้ Tome AI เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการนำเสนอในที่ทำงานหรือในโรงเรียน
ข้อดี:
ช่วยสร้างพรีเซนเทชันที่ดูดีและมีคุณภาพสูง
สร้างเนื้อหาสไลด์อัตโนมัติ
ใช้งานง่าย
ข้อเสีย:
ฟีเจอร์ที่หลากหลายอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ
เหมาะสำหรับ: นักธุรกิจและนักศึกษา
5. Motion AI – ปรับแต่งวิดีโอให้มีชีวิตชีวา
Motion AI ช่วยให้คุณสามารถสร้างแอนิเมชันหรือปรับแต่งวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว ด้วยฟีเจอร์การเพิ่มการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงในวิดีโอ AI ช่วยให้คุณไม่ต้องใช้เวลานานในการแก้ไขวิดีโอ
ข้อดี:
เครื่องมือปรับแต่งวิดีโอที่ง่ายและรวดเร็ว
เหมาะสำหรับการสร้างสื่อที่ต้องการความเคลื่อนไหว
มีฟีเจอร์ช่วยเพิ่มลูกเล่นพิเศษ
ข้อเสีย:
ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งอาจจำกัด
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการปรับแต่งวิดีโอให้ดูน่าสนใจและสร้างสรรค์
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วย AI tools
การใช้ AI tools ในปี 2025 สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างสรรค์งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างเนื้อหาวิดีโอ, บทความ, หรือแม้กระทั่งการจัดการงาน AI จะช่วยให้การทำงานของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น เครื่องมือเหล่านี้จะไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แหล่งที่มา: Forbes, Mean Marketing, App Store, Pictory, Elegant Themes, University of Cincinnati, Tool Finder
תגובות